วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555

.อรุณสวัสดิ์ครับ

ลืมตาขึ้นตื่นรับกับตะวัน
ต้องแข็งขันการงานสานต่อสร้าง
สิ่งเก่าก่อนผ่อนสางอย่าละวาง
กาแฟพลางหยิบจิบทิพย์ภิรมย์.......
++++++++++++++++++++++++++++++++
.....
**********************************-----*************************
แสงตะวัน... อันใด... ที่ใครคุ้น
ยังอบอุ่น... กรุ่นคง... รอส่งเสริม
ทุกหมู่เหล่า... เฝ้ารอ... แสงต่อเติม
สาดส่องเริ่ม... เพิ่มค่า... แก่ฟ้าคราม...

*****************************
 โลกกลมๆใบนี้ ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ
♥  อยู่ให้ไว้ใจ ไปให้คิดถึง
♥  คนเราต้องเดินหน้า เวลายังเดินหน้าเลย
♥  ไม่ต้องสนใจว่าแมวจะสีขาวหรือดำ ขอให้จับหนูได้ก็พอ
♥  ยิ่งมีใจศรัทธา ยิ่งต้องมีสายตาที่เยือกเย็น
♥  ในโลกกลมๆ ใบนี้ไม่มีคำว่าแน่นอน
♥  ความปรารถนาอย่างแรงกล้า นั่นแหละคือเหตุผล
♥  คนเราเมื่อม้าตาย ก็ต้องลงเดิน
♥  คนเราจะไม่ต้องใช้สมองเลย ถ้าพูดแต่ความจริง..................
***************************************************************************
.........................................................................................................................
รุนสวัสเช้าวันใหม่.........
ทักทายกันยามเช้า
บอกแจ้งเรื่องราวผ่านอักษร
ทุกนาทีที่ไกลยังอาวรณ์
คิดถึงทุกบทตอน "เรื่องของเรา"

บอกผ่านม่านฟ้า
ยังคงห่วงหาเหมือนเก่า
ทุกบันทึกระหว่างวันเหงา
จางไปจากใจคนเศร้าเมื่อมีเธอ....
...........................................
กลอนเหงากลอนเศร้า
..
ใจโดดเดี่ยวเปลี่ยวจิตมิตรคือเหงา
ที่ตามเฝ้าเข้าหลอนอ้อนขับขาน
คอยตามติดชิดแนบแอบดวงมาน
แสนร้าวรานซ่านเปลี่ยวเชียวนะใจ....
........................................
จะมีใครไหนเลยจะมองมา
ช่วยนำพาจากห้วงบ่วงผลักไส
ไม่มีแล้วแคล้วคนบ่นห่วงใย
มีเพียงเรากับเงาใจใครจะแคร์........
......................................
ความรู้สึก ที่สูญไป คือใจฉัน
เธอสะบั้น มันขาด ไม่อาจหวน
การกระทำ ย่ำยี พึ่งชี้ชวน
ทุกสิ่งล้วน คือเล่ห์ทุ่มเทมา.
...............................
ไม่อยากเชื่อ เมื่อรู้ ผู้ที่รัก
เขานั้นหักหลังฉัน ทิ้งปัญหา
หวังที่วาด ขาดวิ้น สิ้นราคา
เหลือน้ำตา กับความเขลา ให้เราจำ
..............................

ต่อแต่นี้ ชีวิต ขอคิดใหม่
เลิกเชื่อใจ วาจา พาถลำ
ปิดประตู ทุกบาน การเชื่อคำ
หลบในถ้ำ คนเดียว ไม่เกี่ยวใคร......
............................
...........................................................................................................
ในคืนเหงาแหงนมองดาวที่เกลื่อนฟ้า
ดูสิหนาดวงดาวยังมีเพื่อน
อันตัวเราข้างกายช่างลางเลือน
ไม่มีเพื่อนใส่ใจ…โอ้..อายดาว........
.......................................
.....................................
คืนนี้ดวงดาวเต็มท้องฟ้า
มันดูสวยยิ่งกว่าสิ่งสิ่งไหน
อยากนั่งมองดูมันตลอดไป
เพราะมันไม่ต่างอะไรกับตัวเธอ
ฉันนั่งอยู่ตรงนี้เวลาเหงา
คอยนับดาววิ่งผ่านอยู่เสมอ
นั่งนับไปเรื่อย ๆ เท่าที่เจอ
เพื่อรอวันที่เธอจะกลับมา.....
...................
***
****************************************
เดียวดายในความเวิ้งว้าง
รอบข้างไร้คนเคยห่วงหา
ความเหงาคอยตอกย้ำรอยน้ำตา
คนไกลเขาจะรู้บ้างไหมว่า
คิดถึงห่วงหา เกินกว่าจะเข้าใจ*****
........................................................

คืนนี้ฝันดีฝันหวาน
คืนวานฝันถึงเราไหม
คืนนี้จะฝันถึงใคร
คืนไหนจะฝันถึงเรา.....
...............................



................... ในวันเหงาๆ
มีเพียงภาพทรงจำเก่าๆเป็นเพื่อน
ในเวลาที่ความอ้างว้างมาเยี่ยมเยือน
มีเพียงน้ำตาเป็นเพื่อนทุกครั้งไป....................................................
เหงาจัง...
อยากมีใครมานั่งเคียงข้าง...อยู่ใกล้ - ใกล้
กระซิบบอกคำรัก....มองดูจันทร์บนฟ้าไกล
อิงแอบแนบชิดไหล่....ปล่อยหัวใจเราคุยกัน...........
......................................................................................................
.
**************************************
มองอีกมุม ให้ใจ ได้หยุดคิด
มายึดติด อะไร กับความเหงา
ไร้เพื่อนคุย ก็เปิด เพลงเบาเบา
อย่างน้อยเรา เข้าใจ ใจเราเอง******
****************************************************

**************************************************
เหงาๆเศร้าจัย.
.......

จัดภาพภายในใจเจ้โรส

*-***-----***ลีลาวดี***********หลังบ้านฮะๆ******
*******
น่อมแน้ม*************เจ้โรสฮะ***********ปี55
***********
 ******จัดภาพแบบนี้ไม่สวยเลยน่าจใส่ดอกไม้ให้หมด******
 *******************ดอกทานตะวันดอกนี้ปลูกเองต้นที่2สำเร็จครั้งเดียวปลูกอีกไม่ขึ้นเลย  ******
***********************************************เจ้โรสก๊าบๆๆๆๆๆ*
 *************กุกุหลาบแดงสีไม่สดเท่าไหร่******************

 **************ต้นฉบับเจ้โรสเยเหลือแต่ภาพก๊าบๆๆๆๆๆๆ**********

 ****ดอกบัวดินนี้เราถือว่าอัศจรรย์สำหรับเรานะๆ*****เพราะเค้าออกดอกหนาตามากออกดอกทุกต้นเลยก็ว่าได้นะสวยงามมาก**

 ภาพ*****นี้จัดภาพเจ้โรสเหมือนสดชื่นครั้งแรกๆจริงๆแล้วเจ้ยิ้มไม่เป็นก๊าบ********
 *****น่อมแน้มก๊าบเจ้โรส**********

********ภาพสุดท้าย*****หัวใจเจ้ก๊าบๆๆๆๆๆๆๆๆเค้าคือหัวใจโรสก๊าบ***********รุนหวาดดีชอบพูดขยันจะจัดใหมก๊าบๆๆภาพปี55^o^

คำโดนใจปี55

*************

ถ้า “ความรัก “ คือการ “เรียนรู้” ชู้คงเป็นการ “เรียนพิเศษ”
♥  ข้อดีของการพูดในใจคือ ด่าใครแล้วใครไม่รู้
♥  แอดเป็นเพื่อนหนะพอรู้ แต่ถ้าอยากแอดเป็นชู้นี่มันกดตรงไหน
♥  อกเล็กอาจเป็นที่พันธุกรรม แต่อกหักมันเป็นชะตากรรม
♥  ผู้หญิงมีสิ่งเดียวที่เห็นแก่ตัว คือ ไม่แบ่งผัวให้ใคร
♥  บอก “เกลียดฉัน” 1,000,000 ไม่เจ็บเท่า “บอกรัก”มันครั้งเดียว
♥  “ลำโพง” เสียงมันดัง แต่ “ลำพัง” เสียงมันเงียบ
♥  มีเงินนับเป็นน้อง มีทองนับเป็นพี่ แต่มีหนี้นับไม่ถ้วน
♥  แอบรักเพื่อนเหมือนดูหนัง สามมิติ เห็นว่าจ่ออยู่ตรงหน้าแต่คว้ามาไม่ได้
♥  อยู่บน “เขา” ไม่หนาวใจเท่าอยู่บน “คาน”
♥  เกิดมาเคยเจ็บอยู่สองครั้ง คือ “ครั้งแล้วกับครั้งเล่า”
♥  คิดถึงเธอวันละครั้ง… ครั้งละ ๒๔ ชั่วโมง
♥  ปวดหลังร้าวมาที่หัวใจ เคลื่อนไปยังกะเพาะ  เลาะมาทางลำไส้ ยายไปที่ม้าม
    ลุกรามถึงถุงน้ำดี  อยู่ดีๆ มาหยุดอยู่ที่เธอ
♥  ก็ “จีบ” อยู่ดีๆ สระ “อี” ก็หายไป
♥  เขียนเสือให้วัวกลัว ก็ไม่น่ากลัวเท่ากับเขียน คำว่า “เพื่อน” ให้ฉันกลัวความรักไปอีกนาน
♥  เธออาจไม่ใช่รักแรกพบ แต่ตอนจบขอให้เป็นเธอ
♥  แต่บางทีหนังที่ดูน่ะไม่สนุก แต่มีสุขเพราะ “คนข้างๆ”
♥  “พรหมลิขิต”  อาจจะยังไม่รู้… “พิกัด” ของเราสองคน
♥  ไม่อยากเป็น “คนรักเดียวของเธอ”  แต่อยากเป็น “คนรักเดียวข้างเธอ”
♥  ทำไมไม่บอก “ช้าง” ทำไมไม่บอก “ม้า” มาบอก “ลา” กันทำไม
♥  กด F1 ใช้ Help ช่วยหารัก
    F5 จะ Refresh รักให้สดใส
   Print Screen ช่วย  Capture รูปหัวใจ
   Ctrl+V วางรักไว้ระหว่างเรา
♥  เดือนเก่ากำลังจะผ่านไป เดือนใหม่กำลังจะเข้ามา  เดือนหน้า “กรกฎา” แล้วเธอจะ
    “กะรัก” หรือ “กะลา”
♥  เสียวเป็นหนึ่ง… ทะลึ่งนิดหน่อย… กวนตีนเล็กน้อย… แต่รักเธอ 100%
♥  พร้อมรบไม่บ่อยนัก แต่พร้อมรัก ๒๔ ชั่วโมง
♥  ที่ต้องใช้ “facebook” มาคอยระบาย ก็เพราะไม่มี “คนข้างกาย” มาคอยรับฟัง*******************
**********************************************************************************************
*********



ความรักให้ได้ครั้งละคน  แต่กับบางคน ความรักให้ได้คนละหลายครั้ง
♥  แม่จะรู้ว่า “ความหวัง” ไม่มี  แต่ความ “หวังดี” ยังมีให้เสมอ
♥  คนหนึ่งบอกว่า “เหงา” เพราะคิดถึง “ใครบางคน” แต่ใครบางคนบอกว่า “เหงา”
    เพราะ “ไม่มีใคร”
♥  อย่าเสียใจที่ยังหา “เนื้อคู่” ไม่เจอ เพราะเนื้อคู่ก็ยังหา “คุณ” ไม่เจอเหมือนกัน
♥  มือถือจะรุ่นดีแค่ไหน ก็ไม่มีความหมาย  ถ้าปลายสายที่โทรหาไม่อยากคุย …กับเรา
♥  คนไม่มีแฟน…ปกติก็ต้อง “เหงา” แต่คนที่ชอบแฟน “คนอื่นเขา” เหงามากว่า
♥  ทุกนาง,งามสรรพ, เมื่อดับไฟ
♥  สุภาพบุรุษในโลกออนไลน์ แต่หื่นมากมายในโลกความจริง
♥  ผู้ชายเงียบๆ “จ้องล่อ” ผู้ชายม่อๆ “จ้องฟัน” ผู้ชายแมนๆ เราไม่ทัน
    เพราะมันหันไปฟันกันเอง
♥  วิธีแก้อาการ “เมียพูดมาก” ก็คือ… “ลากขึ้นเตียง”
♥  ผู้หญิงย่อมเจ็บอยู่ ๒ เรื่อง คือ เจ็บแล้ว “สวย” กับ เจ็บแล้ว “เสียว”
♥  มุขอาจจะไม่ฮา แต่ลีลาทดแทนได้
♥  มีแฟนในอินเตอร์เน็ต ก็เหมือนมี SEX ในจินตนาการ
♥  “ทะเลาะกัน” อาจจะ “ถึงลูกถึงคน” “สงบลง” อาจจะ “ถึงเนื้อถึงตัว”
♥  คำว่า “SEX” ไม่ใช่คำตอบแต่เป็นเพียงคำถาม ส่วนคำตอบ… “โอเคค่ะ
♥  บางครั้ง “หน้าอก” ใหญ่ ก็ไม่ได้หมายความว่า  “นมจริง” เสมอไป
♥  เป็นคนไม่หวือหวา… แต่ลีลาและท่วงท่าพิสดาร
♥  ถ้าเลิกกับหนู…พี่ก็รู้ว่า กี่ปี…ในคดีพรากผู้เยาว์
♥  หวยไม่ใช่หอย…จะได้แทงถูกตลอด
♥  ผู้หญิงไม่ใช่ “วิทยาศาสตร์”…จะได้เปิดโอกาสให้ผู้ชายได้..“ทดลอง”
♥  ความรักก็เหมือนกับเราหักหนามทุเรียน แล้วพูดว่า “รัก ไม่รัก รัก ไม่รัก” สุดท้าย
    คำตอบก็คือ “รักก็เจ็บ ไม่รักก็เจ็บ”
♥  เวลาทำอะไรพิเศษ ให้กับคนพิเศษ แต่เค้าไม่รู้สึกพิเศษ “เราก็เจ็บเป็นพิเศษ”
♥  ความรักก็เหมือนกับถูกแม่ตี เจ็บกี่ทีก็ไม่เคยจำ
♥  ออนแล้วไม่ทัก…ยังไม่เจ็บใจเท่า…ทักแล้วออฟไลน์หนี ???
♥  เป็นเพื่อนไม่เคยบอก “เลิก” กัน แต่มันเจ็บทุกวัน เพราะบอก “รัก” กันไม่ได้ ???
♥  รักได้แต่อย่ารักมาก…หวังได้แต่อย่าหวังมาก…หวงได้แต่อย่าหวงมาก…ไปกันไม่ได้
     สุดท้ายก็จะ “เจ็บมาก”
♥  มีรักแล้วมันจบ ดีกว่าแอบรักแล้วมันเจ็บ
♥  ชอบคำว่า “ตกหลุมรัก” เพราะมันเตือนเราว่า…ทุกคนมีโอกาสที่จะเจ็บ
♥  เจอ…จีบ…จับ…จูบ…จาก…เจ็บ…สุดท้ายก็…จบ
♥  ไม่อยากต้องกลายเป็นคน “อกหัก” หลายคนจึงยอมทน “เจ็บหนัก” อยู่กับรัก
    ที่เฉื่อยชา
♥  คำว่า “อ้วน” พูดเบาๆ ก็เจ็บ
♥  เมื่อก่อน สงสัยว่า “ทำไมรักแล้วต้องเจ็บ” แต่ตอนนี้สงสัยว่า… “ทำไมเจ็บแล้ว…ยังรัก”
♥  ภาษาไทยวันละคำ วันนี้ขอเสนอคำว่า “ถลอก” กับ “เธอหลอก” ออกเสียงคล้ายกัน
   แต่ความ “เจ็บ” มันต่างกัน
♥  พูดให้เจ็บแล้วจบแบบ “เด็ดขาด” ดีกว่าพูดให้ “โอกาส” แล้วเจ็บแบบไม่จบ…!!
♥  “กูแอบรัก แฟนคนอื่น” .. เรียกกู ว่า “ชู้” !! .. แต่พอ.. “คนอื่น แอบรักแฟนกู” .. 
     ก็เรียกกู ว่า “ควาย” !
♥  “ขอนอนกอดเฉย ๆ ก็พอ” ประโยคนี้ 89 % ของผู้ชาย มักจะ “ตอแหล” และ
    “ผู้หญิง 100 %” รู้ว่าผู้ชายคนนั้น “ตอแหล” แต่เธอก็ยังจะไป “นอนให้เค้ากอดเฉย ๆ”
♥  ขอโทษที เดี๋ยวนี้! .. กู “สายตาสั้น” เลยมอง ไม่ค่อยเห็น “ความสำคัญ” .. ของ
    “คนที่เคยทิ้งกัน” แล้วกลับมา ขอคืนดี !
♥  เขียน: ถ้าตั้งสถานะว่า “โสด” ได้โปรดอย่า “กด like” .. มึงถูกใจกันนักรึไง?
    ที่กูไม่มีใครเอา
♥  คนบางคน `โง่ ` เพราะไม่รู้ !! แต่คนบางคน รู้ !! แต่ `ยอมโง่` … คนบางคน `เหี้ย`
   โดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ ! คนบางคน `เหี้ย` จากข้างใน และสันดาน ~
♥  คนนึง “คิดถึง”อีกคน “คิดถอย”
    คนนึง “เฝ้าคอย” อีกคน “เดินหนี”
    คนนึง “ห่วงหา” อีกคน “ไม่มี”
    คนนึง “ภักดี” อีกคน “เปลี่ยนไป
♥  คนฉลาดใช้  ”Facebook” อย่างรู้คุณค่า… มีแต่คนบ้าที่ใช้  ”Facebook”  ประจานตัวเอง !!
♥  เดินผ่านหน้ากู .. ทำเป็น ไม่ทัก! .. แต่พอเจอสาวๆ “นมทะลัก” .. รีบทักแทบไม่ทัน !
♥  บางครั้ง เราไม่ได้ Share ข้อความที่เราชอบเพียงเพราะ มันโดนใจ 
    แต่เราตั้งใจ Share เพื่อให้ใครบางคน เห็นมันและแอบหวังว่า .. เขาจะเข้าใจมัน*****
*****************
ถ้าคุณยังไม่พร้อมที่จะ “หยุด” ที่ใคร . . .ก็อย่าหวังไปไกลว่าใครจะมา “หยุด” ที่คุณ . . !!
♥  ถ้าวันนึง “อกหัก” แล้วคิดว่าจะต้อง เสียใจ เจ็บปวด ทรมาน จนแทบจะทนไม่ได้ 
    ให้ลองเอามือไปทาบที่ “อกข้างซ้าย” ดูนะ เห็นมั้ย ? “หัวใจเรายังเต้น”
     มันแปลว่า เราก็ยัง “รักเป็น” ไม่เห็นต้องแคร์ :)
♥  ในขณะที่บางคน! พร้อมจะ “โกหก” ทุกเมื่อ .. อีกคน! ก็พร้อมจะ “เชื่อ” ทุกครั้ง !
♥  บ่อยครั้ง” ที่เรา “ไม่เห็นค่า” ของ “คนที่อยู่ข้างกาย” 
    “สุดท้าย” ก็ “เสียดาย” เมื่อ “คนข้างกาย” เค้า “ไม่ทน” !!
♥  เพื่อนก็เหมือนดาวบนท้องฟ้า..แม้ไม่เห็นตลอดเวลา..แต่ก็รู้ว่าท้องฟ้ายังมีดาว ~
♥  พยัญชนะไทยมีทั้งหมด 44 ตัว แต่สำหรับคนเจ้าชู้คงมีแค่ 43 ตัว เพราะไม่รู้จัก “พ”
♥  “เฟส” กับ “แฟน” พอแทนกันได้
     เกลียด “แฟน” ลง “เฟส”
     เกลียด “คนในเฟส” ก็มาลง “แฟน”
     เกลียดทั้ง “แฟน” เกลียดทั้ง “เฟส”
      — >> ปิด เฟส ตบ แฟน <<—-
♥  ยามทะเลาะกัน..” ความเงียบ ” นั้น..ไม่มีค่า
    แต่มัน ช่วย ” ต่อเวลา >> ให้เรา ไม่เลิกรากัน
♥  รักใครรักเดียว
    รักนิดเดียวรักทำไม
    รักแล้วสบายใจ
    รักทำไมรักคนเดียว
♥  เหตุผลที่ “เปลี่ยนแฟนบ่อย” ก็แค่…อยากกระจาย “ความอร่อย” ให้ทั่วถึง
♥  …ห้ามดื่มสุราขณะขับรถ เพราะจะทำให้เหล้าหกเสียของ..
♥  อาจจะดูเป็นผู้หญิง…ขี้เหงา , อาจจะดู “ขี้เมา” บางโอกาส…
    อาจจะดู “เรียบร้อย” อยู่ในโอวาท…แต่ถ้ากุ “ฟิวส์ขาด” กุก็
    “อาละวาด” ได้เหมือนกัน
♥  “อย่ารีบมีแฟนหลังจากอกหักเพราะเราจะแยกแยะไม่ออกว่านั่นเป็นรักหรือการฆ่าเวลา”**************
****************************************************************************************************
*******************************************************************************************************************************************


คำกลอนสอนใจ


สว่างใดในหล้าว่าสว่าง
จะหาอย่างปัญญาจะหาไหน
ถึงตะวันจันทร์ส่องผ่องอำไพ
ไม่ส่องใจให้สว่างอย่างปัญญา
     แสงสว่างกลางนภาขอบฟ้ากว้าง
แม้สว่างห่างไกลถึงไหนหนา
ไม่เสมอเหมือนสว่างทางปัญญา
ทุกทิวาคืนค่ำไม่กำบัง 
*******************
 ****

คนรักกันอยู่ไกลสุดขอบฟ้า
เหมือนชายคาเข้ามาเบียดดูเสียดสี
อันชังกันนั้นใกล้แค่องคุลี
ก็เหมือนมีแนวป่าเข้ามาบัง ฯ

»  ถ้าแคบนักมักคับขยับยาก
ถ้ากว้างมากไม่มีอะไรจะใส่สม
ถ้าสูงนักมักจะลอยไปตามลม
ถ้าต่ำนักมักจะจมลงบาดาล ฯ

»  ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์
มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร
จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา ฯ ***
******




จะพูดจาปราศรัยกับใครนั้น
อย่าตะคั้นตะคอกให้เคืองหู
ไม่ควรพูดอื้ออึงขึ้นมึงกู
คนจะหลู่ล่วงลามไม่ขามใจ
    แม้นจะเรียนวิชาทางค้าขาย
อย่าปากร้ายพูดจาอัชฌาสัย
จะซื้อง่ายขายดีมีกำไร
ด้วยเขาไม่เคืองจิตระอิดระอา
    เป็นมนุษย์สุดนิยมที่ลมปาก
จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา
แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา
จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ ฯ

******

 **********************

อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก
แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย
แม้นเจ็บอื่นหมื่นแสนจะแคลนคลาย
เจ็บจนตายเพราะพูดเหน็บให้เจ็บใจ ฯ

»  อันขมอื่นดาดดื่นในพื้นหล้า
รสไม่กล้าเหมือนขมลิ้นคมแหลม
ลิ้นคนคมขมเจ็บที่เหน็บแนม
เข้ารอนแรมหมักหมมอกตรมตรอม ฯ

»  แม้นหวานอื่นดาดดื่นหลายหมื่นแสน
ไม่เหมือนแม้นคำขานที่หวานหอม
กลิ่นประเทียบเปรียบดวงพวงพยอม
สามารถน้อมจิตร้ายให้กลายดี ฯ

»  เชิญแสวงแสงสว่างทางชีวิต
อย่าหลงมิดมืดนานนักท่านเอ๋ย
อยู่ให้สัตว์สังคมเขาชมเชย
อย่าอยู่เฉยเฉื่อยชืดมืดทุกทาง ฯ

»  จำขึ้นใจในวิชาดีกว่าจด
จำไม่หมดจดไว้ดูเป็นครูสอน
ทั้งจดจำทำวิชาให้ถาวร
อย่านิ่งนอนรีบจดจำหมั่นทำเอย ฯ******************************

  
*************************************************************************************************************************************ต้นโมกแคระ***********

.คติธรรมคำคม


***กระจกไว้ส่องหน้า ปัญญาไว้ส่องใจ ฯ
กลองจะดังก็เพราะตี ศิษย์จะดีก็เพราะครู ฯ
  กล้าหาญทางกาย คือ เผชิญความตายโดยไม่พรั่น กล้าหาญทางใจ คือไม่หวั่นความรักชัง  ฯ»  กว้างอะไรไม่ยิ่งใหญ่เท่าใจกว้าง ฯ
  ก่อนพูดเขียนถ้าใคร่ครวญให้แน่ชัด  เวลาจะประหยัดลงเหลือหลาย ฯ
 ก่อนพูดเราเป็นนายคำพูด  พูดแล้วคำพูดเป็นนายเรา ฯ
 กับผู้ชราเราให้โอกาสผ่อนพัก กับมิตรรักให้ความจริงใจ กับผู้เยาว์วัยให้ความอ่อนโยน ฯ
  กายมีศีลสุขล้ำ ใจมีธรรมสุขเลิศ  มีทั้งศีลทั้งธรรมจะมีแต่ความล้ำเลิศ ฯ
  การเกิดของความเบื่อหน่าย  คือความตายของความพยายามฯ
 การเกิดมีเป็นเพราะเหตุปัจจัย  ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นด้วยตนเอง ฯ
 การกระทำให้อยู่หน้า  การพูดจาให้อยู่หลัง ฯ
  การกล่าวว่าเขาโกหก ไม่ใช่เรื่องตลกแต่เป็นเรื่องร้ายแรง ฯ
»  การหัวเราะขบขัน คือแสงตะวันในครัวเรือน ฯ
»  กาลเวลาผ่านผัน  ทุกสิ่งอันย่อมเปลี่ยนแปลงฯ
»  ก้าวจคร้านและสุรุ่ยสุร่ายทำให้อัตคัด  ขยันและประหยัดทำให้ร่ำรวย ฯ
»  เกลียดกันอยู่ใกล้ก็เหมือนไกล  รักใคร่อยู่ไกลก็เหมือนใกล้ ฯ
»  เกือกคับ  เรือรั่ว  เพื่อนชั่ว  นายชัง นั่งติดกองไฟ   ไม่มีสุข ฯ
»
»  ขาวทำให้เด่น  เฉกเช่นชั่วกับดี ฯ
»  ข่าวร้ายมักไปเร็วไปไกล  ข่าวลือมักเหลวไหลเสียกว่าครึ่ง ฯ
»  ข้าวรวงงามในทุ่งเป็นของเพื่อนบ้าน หญิงงามที่พบผ่านเป็นของคนอื่น ฯ
»  ขี้ข้าได้ดีเหมือนสังกะสีปนนาก  ผู้ดีตกยากเหมือนนากปนทอง ฯ
»  ขี้โฉดทนฉ้อ  ขี้ขอทนอาย ฯ
»  ขึ้นชื่อว่าศิลป์หมิ่นไม่ได้  จะเช่นหนึ่ง  เช่นใด  ก็ยังประโยชน์ ฯ
»  ขุนเขาไม่กระเทือนด้วยลมกรรโชก  บัณฑิตไม่ไหวโยกด้วยคำติชม ฯ
»  ขุนเขายังพังทลาย ไม้ใหญ่ยังหักโค่น คนก็ย่อมร่วงหล่นไปตามธรรมชาติ ฯ
»  ขุนเขาที่สลับซับซ้อน  ยังไม่ยอกย้อนเท่าใจคน ฯ
»  เข้านอนหิวและอดตอนกลางคืน  ดีกว่าตอนเช้าตื่นก็พบหนี้สิน ฯ
»  แขกที่มาทุกวัน  คือโจรตัวฉกรรจ์ที่ปล้นครัวเรือน ฯ
»  แขวนของขลังไว้ที่คอพอคุ้มได้  แขวนของขลังไว้ที่ใจยิ่งได้ผล ฯ
»  คติใด ก็ไร้ความหมาย  ถ้าไม่ฝังลึกในใจกายรวมก่อเป็นนิสัย ฯ
»  คนเก่งจะไม่คุยโม้  คนคุยโวจะไม่เก่ง ฯ
»  คนเก่งที่เห็นแก่ตัว  คือคนชั่วที่เป็นภัยสังคม ฯ
»  คนเก็บกุหลาบย่อมซึ้งทราบในรสหนาม ฯ
»  คนขยันและชำนาญย่อมทำงานได้เกือบทุกอย่าง ฯ
»  คนขลาดแสดงอำนาจในบ้าน  คนกล้าหาญแสดงในสนามรบ ฯ
»  คนโง่ที่ซื้อหา  มีมากกว่าคนโง่ที่ค้าขาย ฯ
»  คนโง่เราดูว่าไม่เข้าท่า  แต่คนโง่กว่าปรบมือชมเชย ฯ
»  คนโง่พูดเป็นกระบุงเรื่องศาสนา  แต่ปฏิบัติเท่าเมล็ดงาก็ไม่ได้ ฯ
»  คนโง่ยืนความคิดติดเด็ดขาด  คนฉลาดจะปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม ฯ
»  คนจนยิ่งจนเพราะทำรวย  คนรวยยิ่งรวยเพราะทำจน ฯ
»  คนจนอยู่ใกล้ไม่มีใครถามหา  คนรวยอยู่สุดหล้าคนเวียนหาอยู่ตลอด ฯ
»  คนจนไม่อาจทะเลาะกับคนมั่งมี  เศรษฐีไม่อาจทะเลาะกับขุนนาง ฯ
»  คนจนไม่มอดม้วย  คนรวยก็อยู่ได้  ยาจกไม่ชี้เศรษฐีก็สบาย ฯ
»  คนจนจะเวียนวนหาหมอดู  ส่วนคนรวยจะเวียนอยู่กับหมอยา ฯ
»  คนจมน้ำตายมีหลายหมื่น  คนจมเหล้าไม่ฟื้นมีหลายแสน ฯ
»  คนจะดีเด่นเฉกเช่นดนตรี  ต้องเขย่าเป่าตีดีดสีจึงจะดัง ฯ
»  คนใจกว้างไม่สู้จะโง่เขลา  คนโง่เงาไม่สู้จะใจกว้าง ฯ
»  คนใจแคบจะกังวลไปทุกอย่างคนใจกว้างจะยอมรับและปรับตัว ฯ
»  คนใจไม่สะอาดเมื่อตนผิดพลาดก็พาลโกรธผู้อื่น ฯ
»  คนจะกลายเป็นยักษ์มาร  เดรัจฉาน  เปรต ถ้ากิเลสครอบงำ ฯ
»  คนฉลาดเห็นอันตรายก็หลีกหลบ  คนโง่พบอันตรายก็เข้าไปหา ฯ
»  คนฉลาดจะมุ่งสิ่งที่สามารถทำ  แต่คนฉลาดเลิศล้ำจะมุ่งสิ่งที่พึงควร
»  คนฉลาดสร้างภาษิตประดิษฐ์คำ คนโง่เพียงแต่กล่าวคำซ้ำและลอกเลียน ฯ
»  คนฉลาดเลี้ยงใคร ได้อักโข  แต่คนโง่เลี้ยงตนเองก็ไม่ได้ ฯ
»  คนใจสูงชักชวนด้วยคุณธรรม  คนใจต่ำชักชวนด้วยอามิส ฯ
»  คนฉลาดอาจเป็นตัวตลก  ถ้าตกอยู่ในหมู่คนโง่ ฯ
»  คนฉลาดใช้สมองแก้ปัญหา  ส่วนคนขาดปัญญาใช้แรงกาย ฯ
»  คนฉลาดพูดว่ากำลังแสวงหา  คนโง่พูดว่าได้พบแล้ว ฯ
»  คนฉลาดจะไม่ทิ้งสิ่งดี ขณะเดียวกับทำสิ่งที่มีให้ดีขึ้น ฯ
»  คนชอบจะชมว่าเราดี  คนชังจะโจมตีว่าเราชั่ว ฯ
»  คนโชคร้ายดูว่ากาลผ่านไปช้า  คนโชคดีดูว่าเวลาผ่านไปเร็ว ฯ
»  คนจำนวนหนึ่งล้มคว่ำบนถนน  มิใช่รถเฉี่ยวชนแต่เพราะคำคนนินทา ฯ
»  คนดีมุ่งพิจารณาค่าคุณโทษ  คนชั่วโฉดมุ่งผลของตนเอง          ฯ
»  คนดีพิจารณาความชั่วจะปวดหัว  พอกับคนชั่วพิจารณาความดี ฯ
»  คนดีทำดีงายทำชั่วยาก  คนชั่วทำดีลำบากทำชั่วง่ายฯ
»  คนได้รับคำแนะนำมีดื่นดาษ  แต่คนฉลาดเท่านั้นจะได้ประโยชน์ ฯ
»  คนตาบอดสอนคนฉลาดว่า  อย่าก้าวไปข้างหน้าก่อนไม้เท้าคลำทาง ฯ
»  คนทำงานที่โง่เขาจะตำหนิเอาเครื่องมือของตน ฯ
»  คนที่ชอบยุ่งเรื่องวิวาทของใคร คือคนที่เข้าไปจับหูหมาบ้า ฯ
»  คนที่ขาดรองเท้า  ให้คิดถึงเขาผู้เท้าขาด ฯ
»  คนที่ชื่อว่าธรรมะธรรมโม  แต่เจ็บป่วยผอมโซอยู่เป็นนิตย์
    จะต้องมีอะไรพลาดผิดอยู่ในตัวเขาเป็นแน่ ฯ
»  คนที่น่าเกลียดคือคนซึ่งโง่ในการงาน  แต่ฉลาดฉาดฉานในการพูด ฯ
»  คนที่พูดน่าเบื่อหน่ายนั้น  พูดสั้น ไม่ค่อยมี ฯ
»  คนที่มุ่งของอยู่ใกล้  ยากที่จะวิเคราะห์ของใหญ่และอยู่ไกลตา ฯ
»  คนที่รวยแท้คือคนที่ตระหนักแน่ในคำว่าพอ ฯ
»  คนที่รู้แต่โลกียธรรม  เหมือนปลาที่รู้จักน้ำแต่ไม่รู้จักดิน ฯ
»  คนที่รู้แท้มีน้อยยิ่งแต่คนที่ใส่ใจอะไรจริงยิ่งน้อยกว่า ฯ
»  คนที่เสียสละจะถูกกล่าวหาว่าโง่หรือบ้าอยู่เสมอ ฯ
»  คนที่เห็นแก่นอนกับกิน  อย่าถวิลหาว่าจะทำงานใหญ่ได้ ฯ
»  คนตายเพราะอดอยากไม่มากเท่ากับคนตายเพราะอิ่ม ฯ
»  คนบางคนอยากรู้ทั่วจักรวาล  ทั้งที่เดินบริเวณบ้านก็หลง   ฯ
»  คนปัญญาด้อย  ได้สุขสำราญนิดหน่อยก็มัวเมา ฯ
»  คนปัญญาดีชมคนปัญญาด้อย  คนปัญญาน้อยชมตัวเขาเอง ฯ
»  คนปวดฟันจะรู้สึกว่า  คนผู้มีสุขล้นฟ้าคือคนที่ไม่ปวดฟัน ฯ
»  คนที่พูดน้อยและไม่อิจฉาใคร  จะสุขกายสบายใจทุกเมื่อ ฯ
»  คนพูดปด มักอุดมไปด้วยคำสาบาน ฯ
»  คนเป็นครูจะเป็นอย่างแม่ปูหรือแม่พิมพ์ ฯ
»  คนพาล เดรัจฉาน หรือบัณฑิต  ต่างก็มีกรรมตรึงติดเป็นเครื่องหมาย ฯ
»   คนมองโลกในแง่ร้ายไม่เห็นกุหลาบเพราะมองแต่หนาม 
     คนมองโลกในแงดีงาม  ไม่เห็นหนามเพราะมองแต่กุกลาบ ฯ
»  คนมีฝีมือที่อับปัญญา คือผู้สร้างปัญหาให้แก่วงการ ฯ
»  คนยอดตระหนี่อยากจะจุดนิ้วชี้แทนเทียนไข ฯ
»  คนเราถ้าปล่อยวางลงได้เมื่อใด  ก็จะยิ้มได้อย่างสุขเสรี ฯ
»  คนเรามักมุ่งเรียนสิ่งนอกตนและห่างไกล  มองผ่านสิ่งภายในและใกล้ตน ฯ
»  คนร่วมชะตากรรมมักมีความรักเสน่หา  คนร่วมกิจการค้ามักมีความคิดคด ฯ
»  คนมั่งมีคิดถึงวันข้างหน้า  คนจนอนาถาคิดถึงปัจจุบัน ฯ
» คนอยู่บนฝั่งจะรีบลงมา  คนอยู่ในนาวาจะรีบขึ้นไป ฯ
»  คนเรามักหาเหตุผลมาอ้าง  เพื่อทำทุกอย่างที่ตั้งไว้ ฯ
»  คนมักโกรธมักไม่ได้ประโยชน์จากคำเตือน ฯ
»  คนมีโชคเรื่องความรัก  ควรจะพักเรื่องการพนัน ฯ
»  คนมุ่งสัมฤทธิ์จะสร้างโอกาส  คนเขลาขลาดจะรอโชค
»  คนมีแผนจะกลุ้มใจก่อนจ่าย  คนไร้แผนจะกลุ้มใจเมื่อจ่ายแล้ว ฯ
»  คนไม่ทำความดี  สวดมนต์ทั้งปีก็ไม่มีคุณค่า  ฯ
»  คนไม่รู้งงงัน  คนกล้าไม่พรั่น  คนดีนั้นไม่วิตก ฯ
»  คนรู้จริงไม่กังขา คนเมตตาไม่ทุกข์ใจ คนกล้าหาญชาญชัยไม่พรั่นกลัว ฯ
» คนส่วนใหญ่จะรู้วิธีประจบ แต่ส่วนน้อยจะรู้วิธีชมเชย ฯ
»  คนสุขุมเอาลิ้นไว้ที่ใจ  คนเลินเล่อเผลอไผล  เอาใจไว้ที่ลิ้น ฯ
»  คนอัจฉริยะจะค้นพบอะไรด้วยวิธีพิลึกประหลาด 
    แต่คนเจ้าอารมณ์จะพลาดไม่ได้พบอะไร
»  คนอัจฉริยะเรียนจากธรรมชาติ  คนฉลาดเรียนจากหนังสือ ฯ
»  คนอับโชคดูว่ากาลผ่านไปช้า  คนสบโชคดูเวลาผ่านไปเร็ว ฯ
»  คนเลี้ยงม้าเพ่งถึงหญ้าอาหารม้า  คนหาปลาเพ่งฝนฟ้าและพายุ ฯ
»  คนที่พูดว่าชีวิตตนมีแต่สุข  อย่าเข้าใจว่าทุกข์ของเขาจะไม่มี ฯ
»  คนที่กล้าทำถึงไม่ได้ผลอะไร  ก็น่าภูมิใจกว่าคนขลาด ฯ
»  คนมีกิจคือคนมีเกียจ  คนขี้เกียจคือคนไร้เกียจ ฯ
»  คนที่เรียนแล้วคิดชีวิตเขามีคุณค่า  คนที่เรียนเพื่อฆ่าเวลา เขาเกิดมาเพื่ออยู่ไปวันๆ ฯ
»  คนจะดีเพราะมีวินัย   คนจะร้ายเพราะวินัยไม่มี ฯ
»  คนดีคือคนขาดหลัก   คนขาดหลักคือคนขาดดี ฯ
»  คนดีอยากจะรวยมากกว่าอยากจะดี อยากเป็นเศรษฐีมากกว่าอยากเป็นสาธุชน ฯ
»  คนมีเงินทำงานด้วยปาก  คนทุกข์ยากทำงานด้วยแรง ฯ
»  ครูมีความหมายเกินกว่าพฤติกรรมที่ทำและถ้อยคำที่พร่ำสอน ฯ
»  ครูอาจารย์พาเราไปแค่ประตู  แต่การเรียนรู้เกิดจากตัวเราเอง ฯ
»  ครูสอนความรู้นั้นมากมี  ครูสอนความดีนั้นมีไม่มาก ฯ
»  ควรชมสตรีต่อหน้า  แต่ชมผู้มีปัญญาลับหลัง ฯ
»  ควรขุดบ่อตอนที่ยังไม่กระหาย  ควรซ่อมหลังคาไว้ตอนที่ฝนยังไม่ตก ฯ
»  ควรดิ้นรนสร้างสิ่งที่ดีในชีวิต  มิใช่ดิ้นรนเพื่อมีฤทธิ์เหนือกว่าใคร ฯ
»  ควรตรวจสอบเครื่องมือทุกอย่างก่อนไว้วางใจใช้งาน ฯ
»  ควรตั้งตนไว้ให้ดีก่อน  แล้วจึงสอนผู้อื่น ฯ
»  ควรทำความดีเป็นบันได  เพื่อก้าวไปสู่ความดีที่เหนือกว่า ฯ
»  ควรมีสมองที่คิดลึกกว้างไกล  มิใช่ภาชนะที่บรรจุอะไรไว้สารพัด ฯ
»  ควรเรียนรู้ทุกอย่างเข้าไว้  แต่อย่าไปทำเสียทุกอย่าง ฯ
»  ความโกรธคือสัตว์ร้าย  ต้องรั้งไว้อย่าปล่อยไป ฯ
»  ความโกรธคือพิษร้าย  ที่จะย้อนมาทำร้ายผู้มักโกรธ ฯ
»  ความโกรธของมิตรยังมีค่ากว่ารอยจูบของศัตรู ฯ
»  ความคะนองคือความพินาศ  ความประมาทคือความตาย ฯ
»  ความคดโกงถ้ารวมกับความฉลาด  ความอุบาทว์จะเกิดขึ้น ฯ
»  ความคุ้นเคยเกินขนาด  ทำให้ขาดความนับถือ ฯ
»  ความแค้นที่ไร้เหตุผล  เสมือนเผาเรือนตนเพื่อไล่หนูตัวเดียว ฯ
»  ความโง่ไม่ต้องเพาะไว้  เพราะมันงอกได้ทุกแห่งหน ฯ
»  ความจริงเพิ่งสวมรองเท้า  แต่ความเท็จได้วิ่งอ้าวไปแล้วทั่วโลก ฯ
»  ความฉลาดถ้าไม่ ได้เพิ่มพูน  จะเสื่อมสูญและลดลง ฯ
»  คนชั่วจะเจริญงอกงามในความมืด   แต่จะจางจืดสิ้นไปในความสว่าง ฯ
»  ความชั่วมาง่ายมาไว  แต่จะจากไปแสนยากแสนช้า ฯ

»  ความดีเพียงน้อยนิดอย่าพึงเว้น  ความชั่วเพียงตัวเล็นอย่าพึงทำ ฯ
»  ความดีสร้างยากสลายง่าย   ความชั่วสร้างง่ายสลายยาก ฯ
»  ความดีเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา  แต่น้อยคนที่มุ่งหาและได้พบ ฯ
»  ความถูกต้องและความดี  ย่อมไม่มีอยู่ในสำนึกของคนเลว ฯ
»  ความทุกข์ยากด้านหนึ่งคือเคราะห์ แต่อีกด้านอาจหมายถึงสิ่งหล่อหลอมชีวิตจิตใจของคน ฯ
»  ความทุกข์ไม่เผาลน หากใจคนเข้าถึงธรรม ฯ
»  ความบริสุทธิ์และยึดมั่นในสัญญา  อย่าไปหาในวิถีทางการเมือง ฯ
»  ความประมาทเลินเล่อ  เป็นเพื่อนเกลอกับความปราชัย ฯ
»  ความเป็นมิตรแท้เพียงวัน  ดีกว่าเพียงรู้จักกันถึงสิบปี ฯ
»  ความผิลพลาดไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไร แต่ถูกถ้วนทุกคราวไปนี้แสนประหลาด ฯ
»  ความผิดพลาดอันร้ายกาจของคนเรา  คือ การกล่าวหาใครเขาว่าผิดพลาด ฯ
»  ความเพียรเป็นศัตรูแล้วเป็นมิตร ความเกียจคร้านมีพิษจากมิตรเป็นศัตรู ฯ
»  ความมั่นคงจะก่อมิตรชิดชอบ  ความล่มจมจะทดสอบน้ำใจมิตร ฯ
»  ความมั่งคั่งจะลดความถูกต้องของคนดี จะเพิ่มความผิดอัปรีย์ให้คนเลว ฯ
»  ความมัธยัสถ์กับความขยัน  เป็นสองแพทย์สำคัญของมวลมนุษย์ ฯ
»  ความไม่รู้จักพอคือต้นตอของความทุกข์ ฯ
»  ความรู้ขาด  ความสามารถไม่มี  ความดีไม่อยู่  เป็นยอดครูไม่ได้ ฯ
»  ความมุ่งมั่นควรเพิ่มให้มาก  ความอยากควรลดให้น้อย ฯ
»  ความรู้ความสามารถต้องเสาะหา   ไม่ใช่ติดตัวมาหรือเกิดขึ้นเอง ฯ
»  ความโลภ  ความอิจฉา และความหยิ่งผยอง คือไฟสามกองที่เผาใจคน ฯ
»  ความหลงใหลในเงินตรา  คือที่มาของความชั่วร้าย ฯ
»  ความสุขในโลกไม่เคยพอดี  หากไม่น้อยเต็มทีก็มากเกินไป ฯ
»  ความสุขสมบูรณ์วันนี้บรรพชนสร้างไว้ให้ ถ้าไม่บำรุงรักษาไว้ความเลวร้ายจะตามมา ฯ
»  ความสนุกเพลิดเพลินเพียงชั่วครู่  อาจทำให้ต้องสลดหดหู่ชั่วชีวิต ฯ
»  จงตั้งความหวังให้สูงสุด  แต่อย่าหยุดเมื่อสิ้นหวัง ฯ
»  จงใช้ปัญญาและธรรมะให้เป็นพละของชีวิต ฯ
»  จงทำความดีไว้ก่อนตาย   เดี๋ยวชีวิตวางวาย  จะไม่มีโอกาสทำ ฯ
»  จงกินแต่พออิ่ม  ชิมแต่พอดี  เป็นหนี้แต่พอประมาณ ฯ
»  จงสู้หิวด้วยอาหาร  จงสู้งานด้วยความเพียร   จงสู้เรียนด้วยความคิด จงสู้มิตรด้วยจาโค ฯ
»  จงเป็นคนที่เกินเก่ง  แต่ไม่ใช่เก่งจนเกินดี ฯ
»  จงประกอบกรรมดีเข้าไว้   เรื่องอื่นใดให้เป็นการของสวรรค์ ฯ
»  จงมุ่งมั่นทำสิ่งอันเป็นหน้าที่   อย่ามัวใยดีกับคำสรรเสริญนินทา ฯ
»  จงยืนหยัดในความเป็นคน  อย่าเป็นหุ่นยนต์ให้โชคชะตามาบงการ ฯ
»  จงเรียนให้รู้  จงดูให้จำ  และจงทำให้จริง ฯ
»  จงลืมข้อบกพร่องของเขา  ด้วยวิธีนำข้อบกพร่องของเรามาขบคิด ฯ
»  จงตรงต่อหน้าที่และเวลา   ดุจสุริยันจันทราที่ตรงต่อวันคืน ฯ
»  จงเตือนเพื่อนในที่ลับตา  และยกย่องโมทนาในที่เปิดเผย ฯ
»  จงเลี้ยงดูพ่อแม่เมื่อยังมีชีวิต  ป่วยการคิดเซ่นไหว้เมื่อตายแล้ว ฯ
»  จงระวังการจ่ายเล็กน้อย  ดุจเรือรั่วนิดหน่อยที่ทำให้เรือใหญ่อับปาง ฯ
»  จนแต่กายหรือใจยังพอทน  แต่ถ้านอกจนในจนก็ไปไม่รอด ฯ
»  จนที่แท้จริงนั้นมิใช่ไร้ทรัพย์  แต่อยู่ที่ปัญญาอับและไร้งาน ฯ
»  จะเป็นวีรชนกันหมดไม่ได้   เพราะต้องมีผู้ปรบมือให้เมื่อเขาเดินผ่าน ฯ
»  จะทำสิ่งใดให้ตัวสนุกสบาย  ก็อย่าทำลายความสุขของผู้อื่น ฯ
»  จะทำอะไรต้องหยั่งให้ลึก  นึกให้ได้และดูให้รอบด้าน ฯ
»  จะมีสุขต้องทุกข์ลงทุนก่อน  จะเป็นก้อนทีละน้อยค่อยผสม ฯ
»  จากกันยามเป็นได้เห็นน้ำใจ  จากกันยามตายได้เห็นน้ำตา ฯ
»  จิตเหมือนปลา  เมตตาเหมือนน้ำ  จิตที่ขาดเมตตาก็เหมือนปลาขาดน้ำ ฯ
»  จิตที่อ่อนแอจะมีแต่ความปรารถนา  จิตที่แข็งกล้าจะมีแต่ความตั้งใจ ฯ
»  จุดประสงค์ของการศึกษา  คือการพัฒนาลักษณะนิสัย ฯ
»  ฉลาดหรือโฉดเขลา  คนจะวัดเราที่วาจา ฯ
»  ฉลาดเฉลียวที่ทรงคุณค่าย่อมได้มาจากประสบการณ์ ฯ
»  ฉันทะ  วิริยะ  จิตตะ  วิมังสา  คือวิชาแห่งความสำเร็จ ฯ
»  เฉพาะคนเกียจคร้านที่เข้าใจว่า  โชคชะตาจะช่วยให้งานสำเร็จ ฯ
»  เฉพาะคนที่สัตย์ซื่อ  ที่เชื่อถือความสุจริตจริงใจ ฯ
»  เฉพาะในกลุ่มคนที่ไว้ใจและเพื่อนที่ซื่อสัตย์
    ที่จะกำหนดให้ของทุกอย่างเป็นสมบัติของส่วนรวม ฯ
»  ชนะไหนเข้าด้วยช่วยกระพือ   เหมือนกระสือตอมห่าช่วยหากินฯ
»  ช่วยกันปลูกป่า  พัฒนาเศรษฐกิจ  กำจัดมลพิษ  ต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ ฯ
»  ชอบเกิดมากกว่าตาย   เหมือนบางรายชอบอายุยืนไม่ชอบแก่ ฯ
»  ชักดาบตัดน้ำ  น้ำยังคงไหล  ยกเหล้าดื่มจะดับทุกข์ไป ทุกข์กายและใจจะยิ่งเพิ่มทวี ฯ
»  ช้าได้พร้าเล่มงาม   หากผลีผลามมักพลิกแพลงฯ
»  ช่างทำนั้นหายาก   ช่างปากนั้นหาง่าย ฯ
»  ชายหนุ่มมักจะนึกถึงฝ่ายตรงข้ามเพราะอำนาจความใคร่
    ส่วนหญิงสาวมักจะยอมพลีกาย ให้ชายด้วยความรัก ฯ
»  ชายแคล่วคล่องหญิงว่องไว   เป็นปัจจัยแห่งความก้าวหน้าของครอบครัว ฯ
»  ชีวิตลิขิตใยต้องเกรงความผิดหวังฯ
»  ชีวิตไม่พอกับตัณหา   เวลาไม่พอกับความต้องการ ฯ
»  ชีวิตเป็นละครตลกของผู้รู้คิด  แต่เป็นละครสลดจิตของผู้รู้สึก ฯ
»  ชีวิตความเป็นอยู่ใครห่อนรู้กำหนดการ  สุดแต่จะประมาณ เร็วหรือช้าก่อนหน้าหลัง ฯ
»  ชีวิตคนแสนสั้น  จงดำเนินชีวิตแต่ละวันให้มีคุณค่า ฯ
»  ชีวิตคนที่สิ้นคิด   ย่อมไม่ผิดกับชีวิตเดรัจฉาน ฯ
»  ชีวิตครูคล้ายเทียนไข  ที่เผาไหม้ละลายตนเพื่อคนอื่น ฯ
»  ชีวิตจะเริ่มเพิ่มค่า  เมื่อเริงร่าเริ่มลด  และทดทนเพิ่มทวี ฯ
»  ชีวิตจะยาวสั้นหาสำคัญไม่  แต่ชีวิตจะอยู่อย่างไรนี่สิสำคัญ ฯ
»  ชีวิตที่ขาดมิตรสหาย  คือการตายอย่างเปล่าเปลี่ยว ฯ
»  ชีวิตคือการเดินทาง  เรือนร่างคือศาลาอาศัย ฯ
»  ชีวิตนี้แสนสั้น  จงรีบหมั่นทำความดี ฯ
»  ชีวิตที่ไร้วิชา  เปรียบเหมือนบุบผาที่ไร้กลิ่นหอม ฯ
»  ชีวิตที่มีสาระแก่นสาร  คือชีวิตที่ทำงานบริการคนอื่น ฯ
»  ชื่อเสียงดีมีคนอิจฉา  ชื่อเสียคนสมน้ำหน้า ล้วนแต่มีอันตราย ฯ
»  เชื่อพระพบพระนิพพาน  ใกล้พระจะชนะมาร   ห่างพระปะแต่มาร ฯ
»  ใช้ความร้อนพิสูจน์ทองนาก  ใช้ทุกข์ยากพิสูจน์ความกล้าแกร่ง ฯ
»  ใช้เวลาเป็นปีถึงได้มิตรดีงาม   แต่แค่ชั่วครู่ยามก็อาจสูญเสียไป ฯ
»  ใช้ความสุขุมรอบคอบเป็นเกาะบัง  จะช่วยให้ยั้งอยู่รอดปลอดภัย ฯ
»  โชคร้ายไม่ใช่ผีหรือเทวดาลงโทษเอา แต่การกระทำของคนเราเป็นต้นเหตุ ฯ
»  โชคช่วยให้คนมีอำนาจได้  แต่ไม่อาจช่วยให้มีปัญญา ฯ
»  โชคคือการศึกษา  วาสนาคือความเพียร ฯ
»  โชคดีอยู่ที่วาสนา  การศึกษาอยู่ที่ความเพียร ฯ
»  ซ่อนอะไรซ่อนได้   เว้นแต่เรื่องรักใคร่กับสุรา  ฯ
»  ซ่อมแซมดีกว่ารื้อ  ซื้อดีกว่ายืม  ลืมดีกว่าหลง  หลงดีกว่างมงาย ฯ
»  ฐานของตึกคืออิฐ  ฐานของชีวิตคือการศึกษา ฯ
»  ฐานะยากจนต่ำต้อยของเกษตรกร  คือยอดแห่งความทุกข์ร้อนในแผ่นดิน ฯ
»  ดอกไม้งามย่อมเหี่ยวเฉา  สังขารของคนเราย่อมร่วงโรยไปตามการ ฯ
»  ดัดไม้คดให้ตรงเพื่อใช้งาน  ฝึกอบรมบุตรหลานเพื่อให้เป็นคนดี ฯ
»  ดำเนินชีวิตดีไม่มีภัย  ดำเนินชีวิตเสียหายภัยมากมี ฯ
»  ดุลธรรมชาติจะสิ้นไป  หากวันใดไทยสิ้นป่า ฯ
»  ดูช้างให้ดูหางดูนางให้ดูแม่  ดูให้แน่ต้องดูถึงย่ายาย ฯ
»  ดินขาดป่า  ฟ้าขาดฝน  คนขาดใจ ฯ
»  ดินจะชุ่ม  ฝนจะฉ่ำ  น้ำไม่ท่วม  เมื่อเราร่วมอนุรักษ์พิทักษ์ป่า ฯ
»  เดินทางเตียนเวียนลงนรก  เดินทางรกวกขึ้นสวรรค์ ฯ
»  แดงก่อนแดด  แปดก่อนเจ็ด  เสร็จทุกราย ฯ
»  ต้นคดปลายตรง  เป็นที่พึงประสงค์กว่าต้นตรงปลายคด ฯ
»  ต้องอดทนเหมือนอูฐ  ไม่พูดเหมือนปลา  ไม่ประจบนายเหมือนหมา ฯ
»  ตราบใดทะเลยังมีคลื่น  อย่าหวังว่าชีวิตจะราบรื่นตลอดไป ฯ
»  ตายเพื่อศาสนานั้นควรตาย   แต่ถ้าตายอย่างงมงายไม่สมควรอย่างยิ่ง ฯ
»  ตำรวจดีพิทักษ์สันติราษฎร์  ตำรวจอุบาทว์พิฆาตสันติสุข ฯ
»  ติเพื่อก่อ  ดีกว่ายอเพื่อทำลาย ฯ
»  ตีงูให้กากิน  กากินแล้วก็บินหนี  บาปได้แก่ผู้ตี  สิ่งนี้ไม่เป็นคุณ ฯ
»  เติบโตเพราะกินข้าว  แก่เฒ่าเพราะเกิดนาน ฯ
»  ถลำล่องชักง่าย  ถลำใจชักยาก  ถลำปากชักไม่ได้ ฯ
»  ถ้าคิดเองไม่ได้แล้วไม่เชื่อคำนักปราชญ์  
    นอกจากไม่ฉลาดแล้วยังไร้ประโยชน์ ฯ
»  ถ้ามีเงินสามารถมีอิทธิพลเหนือผี  ถ้าเงินไม่มีพูดกับใครเขาก็ไม่ฟัง ฯ
»  ถ้าเราอุทิศเวลาให้แก่ทางธรรมมากเท่ากับทางโลก บาปกรรมและทุกข์โศกจะเบากว่านี้ ฯ
»  ถ้าสนใจผู้อื่นไม่วันคืนก็มีเพื่อนได้  ถ้ามุ่งให้คนอื่นสนใจ นานเท่าใดก็ไม่มีเพื่อนแท้ ฯ
»  ถ้าอยากมีทรัพย์สิน  จงขยันทำกินและอดออม ฯ
»  ถ้าอยากเป็นคนมีนิสัยดีงาม  ก็อย่าวู่วามโกรธง่าย ฯ
»  ถ้ายังสำนึกว่าตัวเองเป็นมนุษย์   ก็อย่าหยุดทำความดี ฯ
»  ถ้าชนะด้วยอาวุธจะสิ้นสุดด้วยความแค้น แต่ถ้าใช้ธรรมะชนะแทนจะสุดแสนสบายใจฯ
»  ถ้าสติมาปัญญาเกิด  ถ้าสติเตลิดจะเกิดปัญญาหา ฯ
»  ถ้าศีลธรรมไม่กลับมาโลกาจะวินาศ  ถ้าศีลธรรมระบาดโลกสันนิวาสจะร่มเย็น ฯ
»  ถึงคราวพูดแล้วไม่พูด  มีแต่บูดกับเน่า  ถึงคราวเล่าแล้วไม่เล่า มีแต่เน่ากับบูด ฯ
»  ถึงตอนต้นหัวเราะร่า  ย่อมไม่สู้ยิ้มละไมบนใบหน้าในตอนหลัง ฯ
»  ถึงไม่ใช่ชาติใช่เชื้อ  ถ้าเอื้อเฟื้อก็เหมือนชาติเชื้อเดียวกัน ฯ
»  ถึงร่ำรวยก็อย่าขาดความเป็นคน  ถึงยากจนก็ให้มีจิตใจเข้มแข็ง
»  ถึงแม้การเลือกเกิดเราจะไม่มีสิทธิ์  แต่การเลือกทางชีวิตเป็นสิทธิ์ของเรา ฯ
»  ท้อแท้จะผิดหวัง  ผิดหวังจะลังเล  ลังเลจะพ่ายแพ้  ฯ
»  ทะเลอิ่มน้ำ  คลังอิ่มทรัพย์  มนุษย์อิ่มสุข  ปราชญ์อิ่มวิชาย่อมหาได้ยาก ฯ
»  ทะเลเหมาะกับเรือแพนาวา   ความคิดพิจารณาเหมาะกับจิต ฯ
»  ทำงานด้วยแรงกายจะถูกปกครอง  ทำงานด้วยสมองจะปกครองคนอื่น ฯ
»  ทำงานให้เป็นสุข  สนุกเมื่อทำงาน  กินเก็บแต่พอประมาณ ที่เหลือช่วยเจือจานคนอื่น ฯ
»  ทำชั่วในที่แจ้งมนุษย์ลงโทษ   ทำชั่วในที่ลับตาเทวดาลงโทษ ฯ
»  ทำแบบเจ๊กจากเล็กไปหาใหญ่  ทำแบบไทยจากใหญ่ไปหาเล็ก ฯ
»  ทำบุญเอาหน้า  ภาวนาแต่ปาก  จะทุกข์ยากไปจนตาย ฯ
»  ทำอะไรถ้าไม่ปรึกษาภรรยานับว่าไม่ฉลาด แต่ถ้าทำตามภรรยาอย่างเด็ดขาดนับว่าโง่เขลา ฯ
»  ทำอะไรจงหยั่งให้ลึก  นึกให้ได้  ดูให้รอบด้าน ฯ
»  ทำผิดคน  ผิดที่  ผิดเวลา  กับทำแล้วไม่ติดตาม  ผลก็ไม่งามดังหวัง ฯ
»  ทำลายป่าไม้คือทำลายชีวิต ฯ
»  ทำดีเพื่อดี  ไม่ใช่ทำดีเพื่อดัง ฯ
»  ทำดีแล้วคนชังดีกว่าดังเพราะทำชั่ว ฯ
»  ทาสถึงอ้วนพี  ก็ไม่สู้เสรีเมื่อผอมโซ ฯ
»  ทุกนาทีมีค่า  ถ้าไม่รู้จักใช้เวลา  ค่าก็ไม่มี ฯ
»  ทุกข์แล้วต้องทน  จนแล้วต้องเจียม  จึงจะไม่เสียเหลี่ยมเสียเกียรติ ฯ
»  ทุกข์อยู่ที่หัว  กลัวอยู่ที่ใจ  จัญไรอยู่ที่ปาก  อยากอยู่ที่ท้อง ฯ
»  ธรรมชาติ  กาลเวลาและความอดทน คือแพทย์สามคนผู้ยิ่งใหญ่ ฯ
»  นกไร้รัง แมงมุมไร้ใย  ก็เหมือนกับคนไร้มิตร ฯ
»  นักปกครองต้องมีคุณธรรม   เพราะจะนำมาซึ่งคน เขตคามและความมั่นคง ฯ
»  นักปกครองไม่พึงลุ่มหลงของมึนเมา  ความยุติธรรมของเราจะไขว้เขว ฯ
»  นักปกครองใจกุศลถือประชาชนเป็นญาติ นักปกครองชั่วชาติ ถือว่าทาส คือ ประชาชน ฯ
»  นักปราชญ์เห็นสิ่งใดเป็นภัยก็หลีกห่าง  หากถึงตัวเข้าบ้างก็ไม่พรั่นกลัว ฯ
»  นักปราชญ์คือผู้มีอำนาจทางความคิด ผิดกับสามัญชนผู้คิดแบบคนธรรมดา ฯ
»  นักปราชญ์จะไม่ทุกข์ร้อนตอนเป็นอยู่   ไม่สลดหดหู่ตอนจะตาย ฯ
»  น้ำบ่อช่วยให้บัวสดใส  น้ำใจช่วยให้คนชื่นบาน ฯ
»  น้ำบ่อน้ำคลองยังเป็นรองน้ำใจ  น้ำที่ไหนก็สู้น้ำใจไม่ได้ ฯ
»  น้ำบ่อน้ำคลองยังเป็นรองน้ำมนต์  น้ำบ่อน้ำฝนก็สู้น้ำมนต์ไม่ได้ ฯ
»  น้ำนรกคือ เช้าฮา  เย็นเฮ  ค่ำเซ  ดึกสร่างสว่างซ้ำ  หัวตำธรณี ฯ
»  น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า  ข้าพึ่งจ้าวบ่าวพึ่งนาย ฯ
»  ในยามทุกข์ยากจะเห็นใจมิตรสหาย  ในยามเจ็บไข้จะเห็นใจคู่ครอง ฯ
»  บนทางขรุขระคนระวังจึงปลอดภัย   บนทางเรียบคนชะล่าใจจึงมีอันตราย ฯ
»  บอกให้ฟังเทศน์ก็หน้างำ  บอกให้ฟังธรรมก็กำหู ฯ
»  บังคับม้า  รถ  เรือ ทำได้หมดสิ้น  บังคับลิ้นในปากตนคนทำไม่ได้ ฯ
»  บางครั้งก็เศร้า  บางคราวก็สุข  บางทีก็ทุกข์หัวอกสะท้อน ฯ
»  บางสิ่งน่ากลัวกว่าความตาย   บางสิ่งมีค่าเหลือหลายกว่าชีวิต ฯ
»  บาปนั้นไม่อาจซ่อนเร้น   เพราะปรากฏเด่นบนใบหน้าของคนบาป ฯ
»  บุคคลใดไม่มีพวกพ้อง  แสดงว่าอาจบกพร่องในนิสัยของตนเอง ฯ
»  ปฏิเสธอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส   ดีกว่ารับไว้อย่างบึ้งตึง ฯ
»  ประชาชาติที่อดอยาก  ย่อมยากที่จะมีศิลปะและศาสนา ฯ
»  ประเพณีไทยแท้แต่โบราณ  ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ ฯ
»  ประจบทำให้เสียงาน  ประจานทำให้เสียคน ฯ
»  ประเทศเป็นบ้าน  ทหารเป็นรั้ว  โรงครัวเป็นท้อง เพื่อนพ้องเป็นได้ทั้งคุณและโทษ ฯ
»  ปรารถนาสารพัดในปฐพี  บุญบารมีบันดาลได้ดังประสงค์ ฯ
»  ปลาเห็นแก่เหยื่อไม่เห็นเบ็ดฉันใด  คนเห็นแก่ได้ไม่เห็นโทษภัยฉันนั้น ฯ
»  ปลูกพืชต้องเตรียมดิน  จะกินต้องเตรียมอาหาร จะพัฒนาหมู่บ้านต้องเตรียม ฯ
»  ประชาชน  จะพัฒนาให้ได้ผลต้องพัฒนาที่ใจ ฯ
»  ป่วยอยู่เห็นหมอเหมือนเห็นแก้ว  หายแล้วเห็นหมอเหมือนเห็นหมา ฯ
»  ปัญญาทำให้คนมีอำนาจ   มารยาททำให้คนมีเสน่ห์ ฯ
»  ปัญหาการศึกษา  อยู่ที่ว่า จะสอนคนมองต้นไม้ให้เป็นป่าได้อย่างไร ฯ
»  ปัญหานำมาซึ่งโอกาสกับการคิดแก้ไข  อันจะนำไปสู่การพัฒนา ฯ
»  ปัญหาเล็กพึงคิดแก้ไข  อย่าให้ปัญหาใหญ่ตามมา ฯ
»  ป่าพึ่งเสือ  เรือพึ่งพาย  นายพึ่งบ่าว  เจ้าพึ่งข้า ฯ
»  ป่าเขาที่ซับซ้อน  ยังไม่ยอกย้อนเท่าใจคน ฯ
»  ปากเป็นเอก  เลขเป็นโท  หนังสือเป็นตรี  ชั่วดีเป็นตรา ฯ
»  ปิดปากเป็นใบ้ไม่เจรจา  ดีกว่าเปิดปากนินทาว่าร้ายเขา ฯ
»  ปู่ไม่ได้ด่า  ย่าไม่ได้สั่ง  พ่อแม่ยังไม่ได้สอน ฯ
»  เป็นคนสมคนเพราะคนมีครู  เป็นครูสมครูเพราะครูมีธรรม ฯ
»  เป็นคนคมในฝักอยู่ร่ำไป   แล้วเมื่อใดจะได้แสดงฝีมือ ฯ
»  เป็นเจ้าสาวโศกา เป็นภรรยาสมสุข เป็นเจ้าสาวรื่นรมย์ เป็นภรรยาอมทุกข์ ฯ
»  เป็นเด็กไม่ใฝ่การศึกษา เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก็ไม่เก่งงาน ฯ
»  เป็นช่างเสื้อและนักประพันธ์  ความคิดต้องผันตามยุคสมัย ฯ
»  เป็นเทวดาแล้วเป็นผี  ย่อมไม่ดีเท่าเป็นผีแล้วเป็นเทวดา ฯ
»  เป็นที่รักของชายชรา  ดีกว่าเป็นข้าของชายหนุ่ม ฯ
»  เป็นผู้น้อยต้องคอยก้มประณมกร  ยากไปก่อนค่อยสบายเมื่อปลายมือ ฯ
»  เป็นแม่ผัว  ให้นึกถึงตัวเมื่อเป็นลูกสะใภ้ ฯ
»  เป็นเศรษฐีชั่วนิรันดร์ที่สันโดษ   เป็นนักโทษชั่วนิรันดร์ที่ตัณหา ฯ
»  เป็นเมียทหารต้องนับขวด   เป็นเมียตำรวจต้องนับแบงก์ ฯ
»  เป็นการทำดีด้วยใฝ่ดี  หากทำดีด้วยใฝ่เสียงชมเชียร์ พอใครไม่ชมไม่เชียร์ ก็รู้สึกฝ่อ ฯ
»  เป่าไฟใต้ลม  ถ่มน้ำลายรดฟ้า  ท่านว่าไม่พึงทำ ฯ
»  เปิดหนังสืออ่านเมื่อใด   ชีวิตก็มีกำไรขึ้นเมื่อนั้น ฯ
»  ไปลามาไหว้  เป็นธรรมเนียมของไทยเรา ฯ
»  ไปศึกษาเรื่องหน้าที่ที่อื่นทำไม   เพราะที่บ้านมีไว้แล้วพร้อมสรรพ ฯ
»  ผิดผู้อื่นเท่าเหาก็เห็นได้   ผิดตนเท่าช้างควายก็ไม่เห็น ฯ
»  ผู้ขอจะขัดใจเมื่อไม่ได้   ผู้ไม่ให้จะขัดใจเมื่อใครขอ ฯ
»  ผู้ฉลาดและใฝ่สูงสะสมธรรม   ผู้โง่เขลาและใฝ่ต่ำสะสมวัตถุ ฯ
»  ผู้โกรธช้าเลิศกว่าผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่  ผู้ชนะจิตใจเลิศกว่าใครที่ยึดเมืองได้ ฯ
»  ผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่  คือผู้ทำให้ศัตรูกลับใจมาเป็นมิตร ฯ
»  ผู้เดินทางหวังอากาศแจ่มใส   ผู้ทำนาไร่หวังฟ้าหวังฝน ฯ
»  ผู้ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความขลาด   จะมีแต่ผิดพลาดและสูญเสีย ฯ
»  ผู้ที่ทนได้ต่อความเหลือทน   นับเป็นยอดคนที่ทนโดยแท้ ฯ
»  ผู้ถึงธรรมไม่ต้องว่ายต้องหยั่ง  เสมือนผู้ถึงฝั่งมีที่เหยียบและยืน ฯ
»  ผู้นำต้องอ่านคนออก  บอกคนได้  ใช้คนเป็น  ฯ
»   ผู้บรรลุธรรมไม่เศร้าถึงอดีต ดำรงชีวิตด้วยสิ่งปัจจุบัน ไม่เพ้อฝันถึงอนาคต
    ผิวพรรณจึงหมดจดผ่องใส ฯ
»  ผู้เป็นมิตรกันเสมือนปากกับมือ คือเมื่อมือเจ็บใช้ปากเป่า เมื่อเจ็บปากก็เอามือลูบ ฯ
»  ผู้มัวโง่ถือฤกษ์ยาม  ประโยชน์งามย่อมล่วงเลย ฯ
»  ผู้ที่ไม่เคยพบความผิดพลาด  จะไม่รู้ความสามารถของตนเอง ฯ
»  ผู้รู้แจ้งมักแสดงแบบธรรมดา   ผู้รู้ครึ่งกลางมีการวางท่ามีมาดมาก ฯ
»  ผู้เหยียบยอดต้องก้าวย่างจากล่างไป  ผู้กำชัยอาจเคยแพ้มาแต่หลัง ฯ
»  ผู้อยู่กลางสนามมืดสับสนงวยงง  ผู้อยู่นอกวงจะเห็นได้ชัดแจ้ง ฯ
»  ผู้อบรมดีไว้ในตน  ชื่อว่าสร้างสวรรค์ไว้ในอก   ผู้สะสมชั่วไว้ในตน 
     ชื่อว่าสร้างนรกไว้ในใจ ฯ
»  ผู้ขยันหมั่นเอาธุระ   ทำงานเหมาะแก่จังหวะ   ย่อมหาทรัพย์ได้ ฯ
»  ผู้ใหญ่ดึงผู้น้อยดัน  เสมอกันประคอง  รับรองรั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ฯ
»  ผู้นำไร้ธรรมจะต่ำอำนาจ ผู้นำไร้ศีลจะสิ้นชาติ 
    ถ้าผู้นำมีทั้งศีลทั้งธรรม จะเลิศล้ำด้วยอำนาจ ฯ
»  ผู้นำที่ดีต้องมีปัญญา  มีหูตากว้างไกล มีใจเที่ยงตรง ฯ
»  ฝึกตนให้มีวินัย   ฝึกใจให้มีวัฒนธรรม ฯ
»  ฝนตกเป็นปรอยปรายอยู่นาน  พายุพานพัดอยู่ครู่เดียว ฯ
»  ฝนไม่มีผลต่อท้องธาร  อาหารไม่มีผลต่อคนอิ่มท้อง การให้ของไม่มีผลต่อเศรษฐี ฯ
»  พรใดก็ไร้ค่า   ถ้าไม่ทำ ฯ
»  พระมีหน้าที่เทศน์ เปรตมีหน้าที่ขอ  คนอยู่หลังมีหน้าที่รอ คนสอพลอมีหน้าที่เลีย ฯ
»  พอใจในเบื้องหลัง  มีหวังในเบื้องหน้า ฯ
»  พ่อแม่ไม่บริสุทธิ์ในการครองตน   คือโจรปล้นความภูมิใจของบุตร ฯ
»  พัฒนาชาติสร้างเศรษฐกิจ   พัฒนาชีวิตสร้างครอบครัว ฯ
»  พันธะอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์   คือการหยิบยื่นสิ่งที่ดีให้บุตรหลาน ฯ
»  พันธะของพลเมืองที่ดีฉลาด  คือการอ่อนน้อมต่ออำนาจที่ชอบธรรม ฯ
»  พึงรักษาจิตให้ดี  ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง มีสติอย่าให้พร่อง  แล้วความเศร้าหมองจะหมดไป ฯ
»  พึงระวังเมื่ออ่านเรื่องสุขภาพอนามัย  เพราะเราอาจสิ้นใจ จากข้อความที่พิมพ์ผิด ฯ
»  พูดดีมีแต่มิตร  พูดโดยไม่คิดชีวิตไม่มี ฯ
»  พูดจาอ่อนหวาน  พูดประสานสามัคคี  พูดดีมีสาระ  ฯ
»  พูดเรื่องสมมุติได้นับหมื่นพันคำ  พูดเรื่องสัจธรรมไม่กี่คำก็จบ ฯ
»  พูดให้คนรักยากจะหวัง  พูดให้คนชังคำเดียวก็เห็นผล ฯ
»  เพราะรักโลภโกรธหลง  ทำอะไรที่ควรตรงให้กลายเป็นเอียง ฯ
»  เพิ่มพูนความขยัน แข่งขันกันประหยัด ฝึกหัดทำความดี สามัคคีร่วมชาติ ฯ
»  เพื่อนกินนับสิบที่เรามี  ไม่สู้เพื่อนตายหรือเพื่อนดีเพียงคนเดียว ฯ
»  เพื่อนกินเพื่อนกัน  เพื่อนรู้ ไม่ทัน  เพื่อนกันเอาไปกิน ฯ
»  ฟองคลื่นและพายุร้าย  จะเข้ากับนายท้ายผู้มีความสามารถสูงสุด ฯ
»  ฟังดูอ่านโดยไม่ไตร่ตรองเหมือนกินของแล้วไม่ย่อย ฯ
»  ฟังเสียงภาชนะจะรู้ว่าแตกร้าวหรือไม่ ฟังคนพูดไปจะรู้ว่าโง่หรือฉลาด ฯ
»  ฟังอะไรครึ่งกลางไม่ต่างอะไรกับฟังความข้างเดียว ฯ
»  ฟังดีมีค่าราคาสูง ฟังไม่ดีก็ไร้ค่าราคาสูญ  ฟังไว้เป็นประโยชน์โทษไม่มีดีเพิ่มพูน ฯ
»  ฟังธรรมวันละหน่อยอร่อยความคิด  ฟังธรรมวันละนิดจิตแจ่มใสฯ
»  ฟังเทศน์แล้วง่วงนอน  ไม่เหมือนดูหนังดูละครตาสว่างๆ ฯ
»  ไฟพิสูจน์ทองนาก  ความทุกข์ยากพิสูจน์คนกล้า ฯ
»  ภยันตรายของคนประมาท   จะหนักหน่วงกว่าคนขาดความรู้ ฯ
»  ภรรยาผู้ประมาท  มีโอกาสเป็นหม้ายได้ตลอดเวลา ฯ
»  ภรรยาสามี  มิใช่เป็นเพียงที่รักหรือญาติสนิท แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนเรา ฯ
»  ภรรยาที่ดี  ไม่พึงคุยกับน้องชายสามีให้บ่อยนัก ฯ
»  ภรรยาไร้มารยาท  ถึงเป็นลูกสาวนักปราชญ์  ก็ไม่อาจทำให้งามขึ้น ฯ
»  ภัยธรรมชาติอาจหนีได้  กรรมที่ตนก่อไว้นั้นหนียาก ฯ
»  ภาวะการเมืองเวียนวน  ทำให้ชีวิตคนเปลี่ยนไป ฯ
»  ภาวะที่หวังจะได้เป็นหรือเป็นอยู่ในขณะนี้ เราเป็นหนี้แม่เราไม่รู้ว่าสักเท่าใด ฯ
»  ภูมิรู้ ภูมิธรรม ภูมิฐาน   เป็นคุณลักษณะสำคัญสามประการของครูดี ฯ
»  มนุษย์จะกลายเป็นยักษ์ มาร เดรัจฉาน เปรต   ถ้ากิเลสเข้าครอบงำ ฯ
»  มนุษย์เรามีสองหน้า  หนึ่งตื่นตาอยู่ในความมืดมิด  หนึ่งหลับสนิทอยู่ในความสว่าง ฯ
»  มนุษย์เราย่อมหวังสิ่งที่ยังไม่ได้   จะหวังน้อยใหญ่ก็ของใครของมัน ฯ
»  มนุษย์เรานี้จะได้ดีก็เพราะปาก  จะได้ยากก็เพราะคำ ฯ
»  มรสุมทะเลสู้ด้วยเรือเหล็กหรือเรือไม้  มรสุมใจสู้ด้วยเรือธรรม ฯ
»  มองสูงมองไกล   มองไปข้างหน้า   แล้วอย่าช้ารีบลงมือทำ ฯ
»  มัวแต่ทำเป็นคมอยู่ในฝัก  ใครจะรู้จักและส่งเสริม ฯ
»  มักง่ายใจแคบเพื่อนเหินห่าง  เรียบง่ายใจกว้างเพื่อนหวนหา ฯ
»  มาวัดวันนี้มีแต่น้ำใจ  มาวัดวันตายมีแต่น้ำตา ฯ
»  มีเงินเขานับว่าน้อง  มีทองเขานับว่าพี่  ขัดสนเงินทองพี่น้องไม่มี ฯ
»  มีโพรงใหญ่ยกให้ไม้แก่   มีความรู้กระจ่างแท้ยกให้แก่เฒ่า ฯ
»  มีม้ารถดีมีเสบียงมากมาย  ก็ไม่อาจถึงจุดหมายถ้าไปผิดทาง ฯ
*********************************************************************************************************************************
***********************************************************************************************
*